เมนู

4. พระพุทธเจ้าข้า ในอวันตีทักขิณาบถ มีหนังเครื่องลาด คือ หนัง
แกะ หนังแพะ หนังมฤค ในมัชฌิมชนบท มีหญ้าตีนกา หญ้าหางนกยูง
หญ้าหนวดแมว หญ้าหางช้าง แม้ฉันใด ในอวันตีทักขิณาบถก็มีหนังเครื่อง
ลาด คือ หนังแกะ หนังแพะ หนังมฤค ฉันนั้น เหมือนกันแล ถ้ากระไร
เฉพาะในอวันตีทักขิณาบถ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าพึงทรงอนุญาตหนังเครื่องลาด
คือ หนังแกะ หนังแพะ หนังมฤค.
พระพุทธเจ้า เดี๋ยวนี้คนทั้งหลายฝากถวายจีวรเพื่อหมู่ภิกษุผู้อยู่
นอกสีมา ด้วยคำว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายขอถวายจีวรผืนนี้ แก่ท่านผู้มีชื่อนี้ ดังนี้
ภิกษุผู้รับฝากมาบอกว่า อาวุโส คนทั้งหลายมีชื่อนี้ ถวายจีวรแก่ท่านแล้ว พวก
ภิกษุผู้รับคำบอกเล่า รังเกียจไม่ยินดีรับ ด้วยคิดว่า พวกเราต้องการของ
เป็นนิสสัคคีย์ ถ้ากระไร ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าพึงตรัสชี้แจงในเรื่องจีวร.

พระโสณเถระเข้าเฝ้า


ท่านพระโสณะรับคำของท่านพระมหากัจจานะแล้วลุกจากอาสนะ อภิ-
วาทท่านพระมหากัจจานะทำประทักษิณแล้วเก็บเสนาสนะ ถือบาตรจีวรเดินไป
ทางที่จะไปพระนครสาวัตถี ถึงพระนครสาวัตถี พระวิหารเชตวันอารามของ
อนาถบิณฑิกคหบดี โดยลำดับ เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถวายบังคมแล้ว
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า ดูก่อน
อานนท์ เธอจงจัดเสนาสนะต้อนรับภิกษุอาคันตุกะรูปนี้ ท่านพระอานนท์จึง
คิดว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระบัญชาใช้เราเพื่อภิกษุรูปใดว่า ดูก่อนอานนท์
เธอจงจัดเสนาสนะต้อนรับภิกษุอาคันตุกะรูปนี้ดังนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อม
ปรารถนาจะประทับอยู่ในพระวิหารแห่งเดียวกับภิกษุรูปนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า

ปรารถนาจะประทับอยู่ในพระวิหารแห่งเดียวกับท่านพระโสณะเป็นแน่ ดังนี้ จึง
จัดเสนาสนะต้อนรับท่านพระโสณะ ในพระวิหารอันเป็นที่ประทับของพระผู้มี
พระภาคเจ้า.

ถวายเทศน์ในพระวิหาร


[21] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในที่แจ้งจนดึกจึงเสด็จ
เข้าพระวิหาร แม้ท่านพระโสณะก็ยับยั้งอยู่ในที่แจ้งจนดึกจึงเข้าพระวิหาร ครั้น
เวลาปัจจุสมัยแห่งราตรี พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตื่นพระบรรทมแล้วทรง
อัชเฌสนาท่านพระโสณะว่า ดูก่อนภิกษุ เธอจงกล่าวธรรมตามถนัด ท่านพระ
โสณะกราบทูลสนองพระพุทธบัญชาว่า อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า แล้วได้
สวดพระสูตรทั้งหลาย อันมีอยู่ในอัฏฐกวรรค จนหมดสิ้นโดยสรภัญญะ ครั้น
จบสรภัญญะของท่านพระโสณะ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระปราโมทย์โปรด
ประทานสาธุการว่า ดีละ ดีละ ภิกษุ สูตรทั้งหลายที่มีในอัฏฐกวรรคเธอเรียน
มาดีแล้ว ทำไว้ในใจดีแล้ว ทรงจำได้แม่นยำดี เธอเป็นผู้ประกอบด้วยวาจา
ไพเราะเพราะพริ้ง ไม่มีโทษ ให้เข้าใจรู้ความได้แจ่มชัด เธอมีพรรษาต่ำไร
ภิกษุ ?
ท่านพระโสณะกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้ามีพรรษาเดียว พระพุทธ
เจ้าข้า.
ภ. เพราะเหตุไร เธอจึงมัวประพฤติชักช้าเช่นนั้นเล่า ภิกษุ ?
โส. ข้าพระพุทธเจ้าเห็นโทษในกามทั้งหลายนานแล้ว แต่เพราะ
ฆาราวาสคับแคบ มีกิจมาก มีกรณียมาก จึงได้พระพฤติชักช้าอยู่ พระพุทธ
เจ้าข้า.